วิธีทำน้ำเกรวีนมด้วยแป้ง

ส่วนผสม

สรุป ปิด

การทำน้ำเกรวีนมด้วยแป้งเป็นอาหารที่เรียบง่ายแต่แสนอร่อยที่รับรองว่าจะต้องเป็นที่นิยมบนโต๊ะอาหารทุกโต๊ะ ในการทำอาหารจานนี้ คุณจะต้องมีส่วนผสมพื้นฐานหลายอย่าง ได้แก่ นม เนย เกลือ แป้ง และพริกไทยเล็กน้อยหากต้องการ

เริ่มต้นด้วยการอุ่นกระทะและละลายเนยจนเดือดปุดๆ เติมเกลือและพริกไทยหากต้องการ ร่อนแป้งลงไปอย่างช้าๆ คนอย่างระมัดระวังจนเนยผสมเข้ากับแป้งอย่างทั่วถึง ปรุงด้วยไฟปานกลางถึงสูงเป็นเวลา 2 นาทีจนส่วนผสมของแป้งและเนยเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน

จากนั้นเติมนมเย็น 1 ถ้วยลงในส่วนผสมแล้วคนช้าๆ จนนมเข้ากันดี เพิ่มความร้อนและคนต่อไปจนกว่าน้ำเกรวีนมจะเดือดปุดๆ จากนั้นลดไฟลงเหลือไฟอ่อนและปรุงต่ออีก 4 – 5 นาทีจนกว่าน้ำเกรวีจะข้นขึ้น อย่าลืมคนน้ำเกรวีตลอดเวลาในระหว่างขั้นตอนนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการติดหรือไหม้ ปรุงต่ออีก 2-3 นาทีและคนน้ำเกรวีจนได้ความเข้มข้นที่ต้องการ ชิมน้ำเกรวีและปรุงรสตามต้องการ น้ำเกรวีนมของคุณก็เสร็จสมบูรณ์และพร้อมเสิร์ฟได้ทันที

รูปแบบต่างๆ

น้ำเกรวีนมสามารถปรับเปลี่ยนได้ง่ายเพื่อสร้างรูปแบบต่างๆ ของน้ำเกรวีครีมแบบดั้งเดิม แทนที่จะใช้นมเย็น คุณสามารถใช้นมอุ่นแทนได้ ทำให้ได้น้ำเกรวีที่เบาและบางกว่า นอกจากนี้ ยังสามารถใส่ส่วนผสมอื่นๆ เช่น ผงกระเทียมหรือผงหัวหอมลงในส่วนผสมเพื่อให้น้ำเกรวีมีรสชาติมากขึ้น หากต้องการ คุณยังสามารถใส่สมุนไพรสับละเอียดหรือเบคอนปรุงสุกลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติได้อีกด้วย

หากคุณกำลังมองหาน้ำเกรวีนมที่มีประโยชน์ต่อหัวใจมากกว่า ให้ลองใช้นมที่ไม่ใช่นมวัว เช่น นมอัลมอนด์หรือกะทิ คุณยังสามารถทดแทนเนยด้วยน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันอะโวคาโด ซึ่งช่วยลดปริมาณแคลอรี่ได้ สำหรับตัวเลือกมังสวิรัติ ให้ลองใช้น้ำสต็อกผักแทนนม คำแนะนำในการเสิร์ฟ

น้ำเกรวีนมมักจะเสิร์ฟเป็นเครื่องเคียงหรือเครื่องปรุง เข้ากันได้ดีกับอาหารหลายประเภท เช่น เนื้อย่าง สเต็ก สเต็กหมู ไก่ทอด ไข่ต้ม มันฝรั่งบด และแม้แต่ผักนึ่ง รสชาติครีมของน้ำเกรวีช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหารจานหลัก นอกจากนี้ยังใช้เป็นท็อปปิ้งสำหรับอาหารจานอื่นๆ เช่น บิสกิตหรือแม้แต่วาฟเฟิลได้อีกด้วย

ความปลอดภัยของอาหาร

เมื่อเตรียมน้ำเกรวีนม สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามแนวทางด้านความปลอดภัยของอาหาร การแช่เย็นน้ำเกรวีที่เหลืออย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ ใส่น้ำเกรวีในภาชนะแยกต่างหากและเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึงสามวัน ก่อนรับประทาน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้อุ่นน้ำเกรวีที่อุณหภูมิอย่างน้อย 74°C (165°F) เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย น้ำเกรวีดิบยังสามารถแช่แข็งและเก็บไว้ใช้ในอนาคตได้

ความล้มเหลวในการทำให้ข้น

บางครั้ง น้ำเกรวีนมอาจทำให้ข้นได้ยาก ซึ่งอาจเกิดจากไขมันในน้ำเกรวีไม่เพียงพอ รวมถึงปริมาณแป้งหรือนมที่ไม่ถูกต้อง เพื่อป้องกันสิ่งนี้ ให้ใช้นมพร่องมันเนยและเนยจืด นอกจากนี้ ให้ใช้ส่วนผสมของนมและแป้งในปริมาณที่เท่ากัน และตีส่วนผสมอย่างต่อเนื่องในขณะที่เคี่ยวด้วยไฟอ่อน อย่าปรุงส่วนผสมนานเกินไป เพราะอาจทำให้เกรวีเป็นก้อนได้

เคล็ดลับและเทคนิค

การทำเกรวีด้วยแป้งไม่จำเป็นต้องเป็นงานที่ยาก เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ต่อไปนี้คือเคล็ดลับบางประการที่ควรจำไว้:

  • ใช้นมเย็นหรืออุณหภูมิห้อง เนื่องจากนมอุ่นอาจทำให้เกิดก้อนได้
  • ตีเนยและแป้งเข้าด้วยกันก่อนเติมนม
  • เมื่อทำให้เกรวีข้น ให้ใช้ไฟอ่อนและคนตลอดเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดก้อน
  • หากเกรวีข้นเกินไป ให้เติมนมเพิ่มและอุ่นจนได้ความข้นที่ต้องการ
  • เพื่อเพิ่มรสชาติให้กับเกรวี ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และสมุนไพรหรือเครื่องเทศอื่นๆ

คุณค่าทางโภชนาการ

เกรวีนมกับแป้งมีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นและครีมมี่ ทำให้เป็นอาหารยอดนิยมที่ให้ความสบายใจ น้ำเกรวีหนึ่งถ้วยมีแคลอรี่ประมาณ 239 แคลอรี่ ไขมัน 15.2 กรัม โปรตีน 4.5 กรัม และคาร์โบไฮเดรต 22.7 กรัม สูตรนี้ยังมีโซเดียมสูง โดยมี 630 มิลลิกรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค

น้ำเกรวีนมกับแป้งเป็นอาหารที่น่ารับประทานและควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ แม้ว่าจะมีคุณค่าทางโภชนาการอยู่บ้าง แต่ผู้ที่ต้องการลดปริมาณแคลอรี่และไขมันที่บริโภคควรเลือกทางเลือกอื่นที่ไขมันต่ำ เช่น น้ำเกรวีผักหรือน้ำเกรวีที่ทำจากนมไขมันต่ำ

สรุป

น้ำเกรวีนมกับแป้งเป็นอาหารคลาสสิกที่อร่อยและทำง่ายซึ่งรับรองว่าจะต้องถูกใจทุกคนอย่างแน่นอน ด้วยส่วนผสมที่น้อยและใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อย น้ำเกรวีที่ทำจากนมนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นเครื่องเคียงสำหรับมื้ออาหารต่างๆ เมื่อรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ อาหารจานนี้ก็สามารถมอบประสบการณ์รสชาติที่เพลิดเพลินใจพร้อมคุณค่าทางโภชนาการได้ การรู้วิธีทำน้ำเกรวีนมกับแป้งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับมื้ออาหารของคุณและให้คุณได้เพิ่มสูตรอาหารแสนอร่อยอีกสูตรหนึ่งให้กับมื้ออาหารของคุณ

Willie Clark

Willie D. Clark เป็นนักเขียนด้านอาหารที่เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์นม เขาเขียนเกี่ยวกับอาหารที่ทำจากนมมากว่า 10 ปี และได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสารและสิ่งพิมพ์ออนไลน์มากมาย บทความของเขามุ่งเน้นไปที่คุณค่าทางโภชนาการของผลิตภัณฑ์นม ตลอดจนสำรวจสูตรอาหารที่น่าสนใจและวิธีนำผลิตภัณฑ์จากนมมาผสมผสานในมื้ออาหาร

Leave a Comment